ทำไมต้องเปลี่ยน?
ในตัวเมืองเชียงใหม่ หรือ เขตเทศบาลนครเชียงใหม่ คือ ใจกลางไข่แดงของจังหวัดเชียงใหม่ กินอาณาเขตประมาณ 40 ตารางกิโลเมตร ภายในพื้นที่เล็กๆ หรือคิดเป็นแค่ 0.1% ของเนื้อที่จังหวัดเชียงใหม่ทั้งหมด กลับรวมเอาทุกสิ่งทุกอย่างมาไว้ข้างใน เรามีสถานศึกษาชั้นนำจำนวนมาก มีโรงแรม 5 ดาว มีห้างสรรพสินค้า ร้านค้าร้านอาหาร เรียงรายอยู่เต็มไปหมด ทั้งหมดเพื่อตอบโจทย์ของการเป็นเมืองท่องเที่ยวหลักเมืองหนึ่งของประเทศ นอกเหนือจากพื้นที่ทางเศรษฐกิจ เรายังมีพื้นที่ทางประเพณีวัฒนธรรมอันเข้มข้น ทั้งวัดวาอาราม เมืองเก่า สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ฯลฯ ในขณะเดียวกันก็ยังคงมีประชาชนพักอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น ทั้งประชากรจริงแสนกว่าคน และประชากรแฝงที่เข้ามาแบบไป-กลับ หรือแบบพำนักอีกหลายแสนคนต่อวัน
ทั้งหมดที่กล่าวมาส่งผลให้เมืองเชียงใหม่ “ออกอาการงอแง” ซึ่งเป็นอาการปกติของเมืองที่ขยายตัวจนกลายเป็นเมืองขนาดใหญ่ เกิดปัญหาสาธารณูปโภค เช่น ถนนหนทาง ขยะ น้ำท่วม น้ำเสีย ฯลฯ มาโดยตลอด นอกจากนั้นยังมีปัญหาทางโครงสร้าง ที่เป็นปัญหาใหญ่กว่าปัญหาแรก คือ ความเหลื่อมล้ำ เมืองที่ไม่ได้ถูกออกแบบให้มีขนส่งมวลชนหรือการเดินทางที่หลากหลาย ไม่ได้ถูกออกแบบให้มีพื้นที่สาธารณะที่เข้าถึงได้ในทุกกิจกรรมตามความสนใจ ไม่ได้ถูกออกแบบให้มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจอื่นได้เติบโตมากนักนอกจากด้านการท่องเที่ยว ไม่ได้ถูกออกแบบให้คนที่มีฐานะยากจนอยู่อาศัยได้อย่างสบาย ทำให้วันนี้ เมืองเชียงใหม่ “ผลักคน” ออกไป มีคนย้ายทะเบียนบ้านออกไปอยู่รอบนอกมากขึ้นทุกปี
“ถ้าการเมืองดี เมืองก็จะดี”
แต่เราอยู่แบบเดิมแบบนี้มาหลายสิบปีแล้ว ทุกวาระในการดำรงตำแหน่งในเทศบาลนครเชียงใหม่ เราไม่เห็นว่าคณะผู้บริหารจะเข้าถึงต้นตอของปัญหาของเมืองได้มากเท่าไหร่นัก โครงการพัฒนาเมืองของเทศบาลยังเป็นโครงการในเชิงส่งเสริมการท่องเที่ยวไปเสียมาก ส่วนโครงการซ่อมสร้างบำรุงรักษา ก็ยังไม่ทั่วถึงและมีคุณภาพพอที่เราจะเรียกว่า “เรามีชีวิตดี” ได้เลย โครงการที่มีวิสัยทัศน์ที่จะพลิกเปลี่ยนเมืองเชียงใหม่ วิสัยทัศน์ที่จะแก้ไขปัญหาในเชิงโครงสร้างตามที่กฏหมายพอจะเอื้อให้ทำ เป็นสิ่งที่พึงจำเป็นต้องเกิด
ลองให้โอกาสคนกลุ่มใหม่ได้มีโอกาสทำงานหรือหากไม่มีตัวเลือกในเชิงตัวบุคคลที่น่าสนใจ ขอให้ลองพิจารณาเลือกจากข้อเสนอที่เราสนใจและอยากให้เกิดขึ้นในเมืองเชียงใหม่ ได้เวลาเรียกร้องออกมาดังๆ แล้วว่าการเมืองท้องถิ่นต้องยกระดับมาตรฐานให้สูงขึ้น ไม่ใช่ว่าผู้สมัครจะมัวแต่เสนอตัวแล้วบอกว่า เลือกแล้วจะไม่ทิ้งกัน เลือกแล้วจะไม่หาย เลือกแล้วจะดูแลตลอดไป เท่านั้น ไม่พออีกต่อไปแล้ว