เมืองจัดการขยะ ECO CITY

ปัจจุบัน ปัญหาขยะที่เกิดจากงานเทศกาลในเชียงใหม่เป็นเรื่องที่พบเห็นได้บ่อย โดยเฉพาะในเทศกาลใหญ่ เช่น ถนนคนเดินและเทศกาลลอยกระทง ซึ่งมีนักท่องเที่ยวและประชาชนเข้าร่วมจำนวนมาก ทำให้ปริมาณขยะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในเวลาอันสั้น โดยเฉพาะขยะจากอาหารและเครื่องดื่ม บรรจุภัณฑ์พลาสติก ถุงหิ้ว และของใช้ส่วนตัว ในหลายงานที่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับระบบการจัดการขยะจึงไม่สามารถกำจัดขยะได้ทัน ทำให้เกิดการสะสมเป็นขยะในพื้นที่สาธารณะหลังการจัดงานเทศกาล ในงานเทศกาลที่จัดใกล้แหล่งน้ำหรือพื้นที่ธรรมชาติ ขยะมักจะถูกลมพัดหรือถูกทิ้งลงในน้ำ ทำให้ส่งผลกระทบต่อสัตว์น้ำและสิ่งแวดล้อม เช่น กระทง โคมลอย หรือขยะจากบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ลอยอยู่ในแม่น้ำหรือคูคลอง เกิดภาพลักษณ์ที่ไม่สวยงามและส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ปัญหาเหล่านี้ต้องอาศัยความร่วมมือจากหน่วยงาน ชุมชน เพื่อพัฒนาระบบการจัดการขยะ รวมถึงปลูกฝังจิตสำนึกในการแยกขยะให้แก่ประชาชนทุกคน    เปลี่ยน เทศบาลนครเชียงใหม่จะพัฒนาระบบการจัดการขยะที่เกิดขึ้นในงานเทศกาล ดังนี้ เชียงใหม่ได้อะไร จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ : 8

ปัจจุบัน ปัจจุบันเชียงใหม่มีปริมาณขยะที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามการขยายตัวของประชากร เฉลี่ยประมาณ 1,475 ตันต่อวัน ถูกนำกลับมาใช้ประโยชน์ 300 ตันต่อวัน และกำจัดอย่างถูกวิธี 750 ตันต่อวัน แต่ยังมีขยะมูลฝอยที่กำจัดไม่ถูกต้องและตกค้างอีกกว่า 800 ตันต่อวัน อ้างอิงจากข้อมูลสถานการณ์ขยะมูลฝอยของประเทศ ปี 2566 กรมควบคุมมลพิษ ซึ่งการจัดการขยะมูลฝอยของเทศบาลนครเชียงใหม่เริ่มจากต้นทางโดยควบคุมปริมาณขยะมูลฝอยที่เกิดขึ้นตั้งแต่การเก็บขนถ่ายและขนส่งไปยังกระบวนการจัดการขยะ แต่ยังคงมีข้อจำกัดในด้านต่างๆ เช่น สถานที่ทิ้งขยะ การคัดแยกขยะของชุมชน การจัดการขยะแบบผิดวิธี ทำให้มีขยะที่ถูกนำไปฝังกลบและขยะตกค้างจำนวนมากในทุกๆ ปี การนำเอาเทคโนโลยีทางกลและชีวภาพเข้ามาช่วยในการจัดการปัญหาขยะของเมือง โดยการแปรรูปขยะเพื่อเป็นเชื้อเพลิง (Refuse Derived Fuel: RDF) จึงเป็นหนึ่งในแนวทางที่ดีในการจัดการปัญหาขยะ โดยต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน และชุมชน  เปลี่ยน เทศบาลนครเชียงใหม่จะจัดการปัญหาขยะในเมืองเชียงใหม่อย่างยั่งยืนผ่านการแปรรูปขยะ โดย เชียงใหม่ได้อะไร จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ : 8

ปัจจุบัน เชียงใหม่ เมืองน่าอยู่และเมืองท่องเที่ยวระดับโลก แต่ในความจริง เมืองเชียงใหม่กำลังเผชิญกับปัญหาขยะที่สะสมมานาน ครัวเรือนและร้านค้าต่าง ๆ ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ต้องจ่ายค่าเก็บขยะในราคาเท่า ๆ กัน แม้ว่าปริมาณขยะที่ทิ้งจะแตกต่างกันอย่างมาก ข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษพบว่า คนไทยใช้ถุงพลาสติกมากถึง 45,000 ล้านใบต่อปี หรือเฉลี่ยคนละ 8 ใบต่อวัน ถุงพลาสติกเหล่านี้ส่วนใหญ่มาจากตลาดสดเทศบาลและภาคเอกชนถึงร้อยละ 40 ร้านขายของชำร้อยละ 30 และห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวกซื้ออีกร้อยละ 30 ยิ่งไปกว่านั้น ขยะประเภทอื่น ๆ เช่น ขยะอาหาร ขยะอิเล็กทรอนิกส์ และขยะกระดาษก็ถูกทิ้งสะสมเพิ่มขึ้นทุกวัน จากรายงานของกรมควบคุมมลพิษปี 2565 จังหวัดเชียงใหม่มีขยะรวมมากถึง 720,000 ตันต่อปี ซึ่งเป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีปริมาณขยะสูงสุดในประเทศ เรากำลังเห็นเมืองของเราจมอยู่ในขยะ ขณะที่ผู้บริหารเมืองยังคงละเลยปัญหานี้ เปลี่ยน เทศบาลนครเชียงใหม่จะจัดการระบบจัดการขยะในครัวเรือนใหม่ ให้เมืองเชียงใหม่สะอาดและประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดย เชียงใหม่ได้อะไร จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ : 9

ปัจจุบัน เทศบาลนครเชียงใหม่มีอัตราการผลิตขยะประมาณ 380 ตันต่อวัน ทำให้มีภาระทางงบประมาณในการจัดเก็บขยะสูงถึงปีละ 200 ล้านบาท (เก็บขยะ 100 ล้านบาทและนำขยะไปกำจัด 100 ล้านบาท) โดยขยะที่เข้าสู่ระบบมีทั้งขยะอินทรีย์ 80% และขยะรีไซเคิล 20% อย่างไรดี ยังมีขยะที่ถูกจัดเก็บถึง 75% ที่ไม่ได้รับการกำจัดและไปอยู่ในบ่อขยะที่อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ เพราะระบบคัดแยกขยะยังไม่มีประสิทธิภาพ ทำให้ขยะรีไซเคิลมักปนเปื้อน การจัดการขยะโดยการเผาและฝังกลบก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศและน้ำ ปัญหาขยะล้นเมืองเป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สุขอนามัย และเศรษฐกิจของเมือง เปลี่ยน เชียงใหม่ได้อะไร จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ : 7