ปัจจุบัน
ระบบราชการไทยมีการแบ่งลำดับชั้นทางสังคมและระบบอาวุโสมาอย่างยาวนาน ซึ่งเป็นอุปสรรคอย่างหนึ่งในการบริหารพัฒนาเมือง ส่งผลให้เกิดการกดทับอำนาจ คนรุ่นใหม่ไม่มีโอกาสได้นำเสนอความคิดเห็นเพื่อเปลี่ยนแปลงเมือง รวมไปถึงปัญหาด้านสิทธิ เสรีภาพ และความเท่าเทียมกันของข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ เช่น การแต่งกายสุภาพภายใต้กรอบกำหนดของเพศสภาพ การพิจารณาการเลื่อนขั้น ระบบเส้นสาย ปัญหานี้ สะท้อนถึงความโปร่งใสและเป็นธรรมในการปฎิบัติหน้าที่ของหน่วยงาน ทำให้ความเชื่อมั่นของประชาชนลดน้อยลง เป็นช่องว่างของระบบบริหารราชการที่ต้องเร่งแก้ไข หากระบบบริหารภายในหน่วยงานยังไม่มีประสิทธิภาพ ก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้อย่างแท้จริง
เปลี่ยน
เทศบาลนครเชียงใหม่ จะบริหารราชการโดยยึดหลักความเท่าเทียม ให้ทุกคนได้มีสิทธิและเสรีภาพของตนเอง โดย
- สร้างสรรค์นโยบายด้วยระบบ ‘พิทชิง’ (Pitching) เปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่ทุกคนสามารถแข่งขันกันเพื่อนำเสนอความคิดเห็น ทั้งการเสนอนโยบายใหม่ แนวทางการแก้ไขปัญหา โดยมีระบบการตัดสินที่เป็นธรรม
- เพิ่มการมีส่วนร่วมของเจ้าหน้าที่ในการตัดสินใจ จัดให้มีการรับฟังความคิดเห็น (Focus group) หรือมีสิทธิในการลงคะแนนเสียงตามหลักเสียงข้างมาก
- สร้างความเท่าเทียมทางเพศ คืนสิทธิในการแต่งกายตามเพศสภาพ ยึดหลักปัญญาชนและมาตรฐานสากล รับสมัครเจ้าหน้าที่โดยไม่กำหนดคุณสมบัติทางเพศ
เชียงใหม่ได้อะไร
- เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพมีความเท่าเทียม โปร่งใส ประชาชนมั่นใจในระบบราชการมากขึ้น
- เกิดความคิดสร้างสรรค์ ได้แนวทางใหม่ในการแก้ไขปัญหาจากความคิดเห็นของคนรุ่นใหม่ เมืองพัฒนาอย่างก้าวหน้าไปตามยุคสมัย
- เทศบาลนครเชียงใหม่เป็นต้นแบบของการบริหารคนอย่างเท่าเทียมกัน